การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้และกำลังก่อผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจต่างๆ หลังจบการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 (Conference of Parties : COP21) บริษัทไอวีแอล คาดการณ์ได้ถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม การเมือง และเศรษฐกิจที่จะมีมากขึ้น จึงได้ดำเนินการวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาสของการเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะเดียวกันก็ตระหนักว่านี่นับเป็นโอกาสอย่างหนึ่ง เพราะการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบต่างๆ จะผลักดันให้บริษัทฯ หันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น ส่วนนวัตกรรมและการผลิตสินค้าคาร์บอนต่ำที่มีมากขึ้นนั้น นอกจากจะทำให้บริษัทฯ กลายเป็นหนึ่งในบรรดาตัวเลือกที่ลูกค้าและผู้บริโภคพึงพอใจมากกว่า ยังทำให้เกิดรายได้จากการลดต้นทุนการผลิตโดยรวมอีกด้วย

ที่ไอวีแอล เราตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้และมุ่งมั่นที่จะลงมือแก้ไข นอกเหนือจากกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2568 (Climate Strategy 2025) แล้ว เรายังได้จัดทำมาตรฐานองก์กรด้านยุทธศาสตร์สภาพภูมิอากาศ (Climate Strategy Corporate Standard) ที่ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของเราทั่วโลกในแง่แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับสภาพภูมิอากาศ ซึ่งรวมถึงการจัดการก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) ด้วยการกระทำหลักและดัชนีชี้วัดผลงาน (Key Performance Indicator) โดยแบ่งออกเป็นสี่ส่วนด้วยกัน

เสาหลัก กลยุทธ์ ผลลัพธ์

ประสิทธิภาพของกระบวนการและผลิตภัณฑ์

  • การบูรณาการวัตถุดิบทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ
  • การเพิ่มการใช้วัตถุดิบจากการรีไซเคิลหลังการบริโภคแล้ว
  • ลดอัตราการใช้พลังงาน 5% ในปี 2568*

ทรัพยากรธรรมชาติ

  • วัตถุดิบที่มาจากการรีไซเคิล
  • พลังงานทดแทนและคาร์บอนต่ำ
  • ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ
  • การบริหารจัดการน้ำและน้ำเสีย
  • ลดการใช้วัตถุดิบใหม่
  • การใช้ไฟฟ้าทดแทนอยู่ที่ 10% ในปี 2568 และ 25% ในปี 2573
  • ลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด (Scope และ 2) 10% ในปี 2568*
  • ลดอัตราการใช้น้ำ 10% ในปี 2568*

การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

  • การกำหนดราคาคาร์บอนแบบเงา
  • การประเมิณความตึงเครียดด้านน้ำ
  • กรอบการดำเนินงาน TCFD
  • การวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์
  • การระบุความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ
  • การบูรณาการ ESG และการกำหนดราคาคาร์บอน เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ

เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน

  • การบริหารจัดการของเสีย
  • ห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน
  • การบริโภคอย่างรับผิดชอบ
  • การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
  • การลด การรีไซเคิล การใช้ซ้ำ
  • การลดการบริโภคทรัพยากรธรรมชาติ
  • การลดของเสีย PET
  • การให้ความรู้ด้านการรีไซเคิล

เรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการเสาะหาหนทางที่จะนำไปสู่การพัฒนากลยุทธ์คาร์บอนต่ำที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อช่วยลดจำนวนกิจกรรมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราเห็นว่าหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อกรกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมองว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้กับธุรกิจรีไซเคิลของเราแข็งแกร่งไปทั่วโลก เรามีเป้าหมายที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุดและยาวนานที่สุดเท่าที่จะนานได้โดยนำนวัตกรรมมาใช้ เรากำหนดเป้าหมายเชิงรุกไว้ดังที่ปรากฏในกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2568 (Climate Strategy 2025) โดยเน้นประเด็นสำคัญสี่ประการ

คณะทำงานด้านการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (TCFD)

ไอวีแอลรับเอาคำแนะนำของคณะทำงานด้านการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (The Task Force on Climate-related Financial Disclosures : TCFD) มาใช้ในการประเมินต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน เราคำนึงถึง IEA STEPS และ IEA SDS scenarios ขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency; IEA) เมื่อทำการวิเคราะห์ทางการเงินโดยใช้การกำหนดราคาคาร์บอนภายในบริษัทเป็นพารามิเตอร์วัดผลกระทบทางการเงิน หากมีการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนในกลุ่มประเทศ OECD และที่ไม่ใช่ OECD เราทำการวิเคราะห์การทดสอบความเครียดเพื่อคาดการณ์ผลกระทบที่มีต่อการผลิต กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) และรายได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารความเสี่ยงของเรา นอกจากนี้ เรายังใช้แผนที่ความเสี่ยงของทางระบายน้ำ (AQUEDUCT water risk atlas) ตามที่ TCFD แนะนำ ในการพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงแรงดันน้ำในอนาคตเพื่อระบุพื้นที่ที่จะเผชิญความเสี่ยงสูงสุดด้านอุปสงค์และอุปทานน้ำในอนาคต ผลจากการศึกษาเหล่านี้ถูกนำมาผนวกเข้ากับมาตรการการปรับตัวในระยะยาวต่างๆ ทำให้ฝ่ายบริหารจัดการสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลรองรับและมุ่งผลในระยะไกลเพื่อความยั่งยืนของไอวีแอล

การดำเนินการตามคำแนะนำของ TCFD

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ไอวีแอลมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสร้างมูลค่าโดย การระบุโอกาสในการลดการใช้ทรัพยากรและวัสดุ นอกเหนือจากผลกระทบเชิงนิเวศผ่านการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (LCAs) เราได้ดำเนินการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (LCAs) ในโรงงานทั้งหมดของทวีปเอเชีย (ไม่รวมการเข้าซื้อกิจการใหม่ตั้งแต่ปี 2560-2563) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 14040/44: 2549 โดยมีแผนที่จะขยายการประเมินนี้ไปยังส่วนการดำเนินงานอื่นๆ ของเรา เราวางแผนว่าภายในปี 2563 จะสามารถขยายพื้นที่การประเมิน Life Cycle Assessments ได้ถึงร้อยละ 95 ของสถานที่ปฏิบัติงาน เราเคยมีการประเมินเพื่อทำความเข้าใจความละเอียดอ่อนของราคาคาร์บอนที่ส่งผลต่อธุรกิจของเรา และขณะนี้ก็กำลังดำเนินการขั้นต่อไปเพื่อศึกษาและใช้นโยบายให้การกำหนดราคาคาร์บอนภายในบริษัทกลายเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงาน ซึ่งรวมถึงการตัดสินใจควบรวมกิจการ (Merger & Acquisition: M&A)

ถึงจะมีความเห็นพ้องทางวิทยาศาสตร์อย่างท่วมท้นและปัญหานี้ก็เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง แต่การลงมือแก้ปัญหาก็เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นต้องมาจากระดับต่างๆ ทั้งตัวบุคคล องค์กร ประเทศ และระหว่างประเทศ ดังนั้นการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงควรเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ และไม่ควรถูกละเลย

เรากำลังดำเนินการตามหลัก 8 ประการในแผนงานริเริ่มการกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศของสภาเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องมือช่วยยกระดับการอภิปรายสภาพภูมิอากาศเชิงกลยุทธ์และช่วยผลักดันการตัดสินใจแบบองค์รวม ทั้งนี้รวมถึงการพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและธุรกิจ

หลัก 8 ประการของไอวีแอลในแผนงานริเริ่มการกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศของสภาเศรษฐกิจโลก

FiberVisions A/S ซึ่งเป็นบริษัทสาขาของเราที่เดนมาร์กสมัครใจทำข้อตกลงร่วมกันกับสำนักงานพลังงานเดนมาร์กเพื่อสนับสนุนการลดการใช้พลังงานทั้งหมดในเดนมาร์กลงร้อยละ 7 ภายในปี 2563 และเป็นอิสระจากเชื้อเพลิงฟอสซิลภายในปี 2593 ภายใต้คำสั่งการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพปี 2555 (2012 Energy Efficiency Directive)

จากที่ FiberVisions A/S ได้จัดทำโครงการประหยัดพลังงานจำนวนมากรวมถึงการศึกษาพิเศษต่างๆ เกี่ยวกับการบริโภคพลังงานเพื่อใช้ระบุพื้นที่ที่มีศักยภาพในการดำเนินการ ทำให้บริษัทฯ มีการประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปี 2560 ค่าการประหยัดพลังงานอยู่ที่ 775 MWh เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นของข้อตกลงนี้ การเปลี่ยนแปลงการเก็บภาษีตามพันธะการให้บริการสาธารณะ(Public Service Obligation; PSO) สำหรับการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ นอกเหนือจากค่าไฟฟ้าและภาษีพลังงานในปี 2559 ก็มีส่วนเช่นกัน

เพื่อที่จะสนับสนุนเป้าหมายเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัทในระยะยาวและเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เราได้ดำเนินโครงการริเริ่มเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกหลายๆ โครงการร่วมกัน การเพิ่มและปรับปรุงการรีไซเคิลเป็นหนทางสำคัญที่จะช่วยจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ความมุ่งมั่นในระดับโลกปี 2568

พลาสติก PET ที่ผลิตโดยไอวีแอลสามารถรีไซเคิลได้ 100% ในปี 2562 เราได้ให้คำมั่นและร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับมูลนิธิ Ellen MacArthur เราลงทุน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรีไซเคิลขวด 50 พันล้านขวดต่อปี หรือ 750,000 ตันต่อปี สำหรับวัสดุ PET หลังการบริโภคเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตโพลีเอสเตอร์ของเรา

การผลิตสินค้าจากวัสดุรีไซเคิลมักใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิตสินค้าจากวัสดุใหม่เอี่ยม ความร่วมมือล่าสุดกับ Unilever และ Ioniqa ในการรีไซเคิลขวด PET สีให้เป็น PET ใหม่เอี่ยมนับเป็นตัวอย่างที่เปี่ยมนวัตกรรมและสำคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของเรา รายละเอียดเพิ่มเติมของความคิดริเริ่มนี้มีอยู่ในส่วนการจัดการนวัตกรรมของรายงานฉบับนี้ ส่วนรายละเอียดอื่นเกี่ยวกับการดำเนินการรีไซเคิลจะอยู่ในบทอื่น ๆ

บริษัท Entreprise Indorama PTA Montréal ซึ่งเป็นบริษัทสาขาในแคนาดาที่เราถือครองทั้งหมดเป็นผู้บุกเบิกการคืนสภาพก๊าซชีวภาพในทวีปอเมริกาเหนือในปี 2552 โดยติดตั้งอุปกรณ์เพื่อทำให้ก๊าซชีวภาพกลายเป็นไอน้ำ ด้วยเหตุนี้ก็จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ก๊าซชีวภาพเกิดจากการบำบัดน้ำทิ้งในเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพแบบไม่ใช้ออกซิเจน มีมีเธน 70-75% ซึ่งมีปริมาณของสารปนเปื้อนต่ำและดังนั้นจึงสามารถทดแทนก๊าซธรรมชาติได้

ในปี 2558 โรงงานได้ติดตั้งอุปกรณ์เพื่อบำบัดน้ำทิ้งที่อยู่ต้นน้ำซึ่งมีผลข้างเคียงที่เป็นคุณคือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพซึ่งจะเป็นการเพิ่มการไหลของก๊าซชีวภาพอันเป็นประโยชน์

ในปี 2561 ได้มีการเพิ่มเครื่องอัดก๊าซชีวภาพใหม่ เครื่องกำจัดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) และหัวเผา อุปกรณ์ใหม่ที่เชื่อมต่อนี้ช่วยให้อัตราการกู้คืนสูงกว่าเดิม คาดว่าก๊าซชีวภาพใหม่นี้จะแทนที่ก๊าซธรรมชาติเป็นปริมาณรวมทั้งสิ้น 1,218,000 Nm3/ปี และจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละปีได้ถึง 2,300 tCO2e

เราเป็นที่รู้จักจากความสำเร็จครั้งสำคัญหลายครั้งนอกเหนือไปจากการเป็นที่ยอมรับขององค์กรภายนอกเช่น RobecoSAM และ CDP เมื่อมองถึงอนาคต เรายังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายและจะเพิ่มศักยภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างกลยุทธ์ที่ยั่งยืน ทำให้ผู้มีส่วนได้เสียของเราได้รับผลประโยชน์มากยิ่งขึ้น และทำให้เรายิ่งใกล้จะบรรลุวิสัยทัศน์ในการสร้างผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแก่สังคม

To make further progress towards environmental stewardship, Indorama Venture Public Company Limited (IVL) recently received assessment from CDP – the global environmental disclosure system – helping measure the risks and opportunities on climate change. The company has received a CDP score of B which is a Management band. This is higher than the Asia regional average of B- , and higher than the Global average of B-. The CDP Score Report will guide us towards our goal of better climate governance while boosting the transition to clean energy.