เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างมูลค่าโดยการระบุโอกาสในการลดการใช้ทรัพยากรและวัสดุตลอดการประเมิน Life Cycle Assessments (LCA) ของผลิตภัณฑ์ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า มากไปกว่านั้นการดูแลผลิตภัณฑ์ยังส่งเสริมนวัตกรรมและกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความคาดหวังที่เกี่ยวเนื่องกับความยั่งยืนและความโปร่งใสทางสังคมและธุรกิจให้เพิ่มขึ้น

แนวทางการดูแลผลิตภัณฑ์ของเราประกอบด้วย

ขยายการใช้ระบบประเมิน Life Cycle Assessments (LCA) สำหรับผลิตภัณฑ์
ใช้เกณฑ์การออกแบบเชิงนิเวศ และการสื่อสารความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
นวัตกรรมรีไซเคิลแบบปิด และ ความเป็นผู้นำในการใช้งานและส่งเสริมการรีไซเคิลพลาสติก PET
ประเมินผลวัตถุดิบทดแทนชีวภาพ
ส่งเสริมโครงการ “การกำกับดูแลเหนือระดับ” เพื่อขจัดการใช้สารที่อาจเป็นอันตราย
เกณฑ์การออกแบบเชิงนิเวศและการสื่อสารความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

เกณฑ์การออกแบบผลิตภัณฑ์ของเรา

ทรัพยากร

(พลังงานทดแทน ทรัพยากรน้ำ การปล่อยก๊าซคาร์บอน)

ผลกระทบในแต่ละขั้นตอน

ความเป็นพิษ

พลาสติกเชิงชีวภาพ

(ศักยภาพในการรีไซเคิล)

ความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพและการผสมผสาน

การทำให้ผลิตภัณฑ์มีน้ำหนักเบาและบางลง

การปฏิบัติตามข้อกำหนด

(FDA, REACH, SIN list, SVHC list)

ประสิทธิภาพการขนส่ง

การจัดการสินค้าตกรุ่น

ไอวีแอลได้ใช้กระบวนการซึ่งก่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างมาก (วัดจากการใช้พลังงาน ปริมาณก๊าซเรือนกระจกต่อตันของการผลิต) เราดูแลให้การประเมินเกณฑ์การออกแบบเชิงนิเวศและการตัดสินใจขององค์กรมีระเบียบแบบแผนมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานการดูแลรักษาผลิตภัณฑ์ทั่วโลกของเรา

ไอวีแอลจัดทำเอกสารข้อมูลความปลอดภัยในรูปแบบ GHS SDS ให้แก่ลูกค้า และได้จัดทำฉลากผลิตภัณฑ์ตามรูปแบบ GHS เราจะดำเนินการสื่อสารด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ให้พร้อมใช้งานมากขึ้นผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามการปฏิบัติที่ดีสำหรับการดูแลผลิตภัณฑ์และความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา รวมถึงเป็นผู้นำโครงการริเริ่ม เช่น การเข้าร่วมกลุ่ม การดูแลอย่างรับผิดชอบ

ไอวีแอลมีบทบาทในโครงการวิจัยและพัฒนาที่มุ่งใช้วัตถุดิบเชิงชีวภาพสำหรับผลิตภัณฑ์เคมี วัสดุทดแทนและสารเคมีชีวภาพที่เราจัดหาและใช้ในการผลิตจำเป็นที่จะต้องได้รับการรับรองว่าผลิตจากแหล่งที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เราเผชิญกับความท้าทายในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดการยอมรับและเพิ่มทางเลือกทดแทน เช่น การขยับขยายเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้บรรลุการค้า การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงการรองรับเทคโนโลยีและความสัมพันธ์พลวัต ซึ่งต้องการนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและพึ่งหุ้นส่วนระหว่างเจ้าของสินค้า ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ในการผลิตพลาสติก PET และห่วงโซ่คุณค่า โดยลักษณะของความร่วมมือเหล่านี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผยมากนัก

คำแถลงเรื่อง GMO ของไอวีแอล

กรณีศึกษา

นวัตกรรมหมอนเพื่อความยั่งยืนจาก PLA พอลิเมอร์ชีวภาพ

เส้นใยในหมอนประกอบด้วย PLA พอลิเมอร์ชีวภาพ 95% ทำมาจากวัตถุดิบเส้นใย PLA ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ยั่งยืนแทนการใช้เส้นใยจากปิโตรเลียม นอกจากนี้ ยังสามารถรีไซเคิลและย่อยสลายในระบบโรงงานอุตสาหกรรมได้ 100% นวัตกรรมหมอนที่ยั่งยืนนี้ได้รับการรับรองสำหรับแบรนด์ Sinfineco ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ที่เรามอบให้บริษัท Trevira

AEROPOWDER – ฉนวนที่ย่อยสลายได้

ผลิตภัณฑ์ฉนวนย่อยสลายได้ชื่อว่า Pluumo เป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัท Trevira และ บริษัท AEROPOWDER โดยเริ่มต้นเปิดตัวในลอนดอนเป็นที่แรก ผลิตภัณฑ์ฉนวนนี้สามารถย่อยสลายได้และเป็นนวัตกรรมวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่มีแนวคิดมาจากขนนก ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วมีคุณสมบัติ เป็นฉนวน และเพื่อสานต่อแนวคิดนี้ให้เป็นจริง AEROPOWDER จึงได้ร่วมมือกับบริษัทสิ่งทอ Trevira GmbH เราได้พัฒนาเส้นใยที่มีการถักทอพิเศษคือเส้นใยสององค์ประกอบ ซึ่งประกอบไปด้วยพอลิเมอร์ชีวภาพสองชนิดที่แตกต่างกัน

ในฐานะส่วนหนึ่งของโปรแกรมการดูแลรักษาผลิตภัณฑ์ทั่วโลก IVL จะดูแลรายการสารควบคุม ในขณะที่พัฒนารายการ “สารควบคุมเหนือระดับ” ซึ่งบริษัทจะหาทางเลือกสำหรับสารเหล่านี้ สารเหล่านี้อาจยังไม่ถูกควบคุมโดยตรง แต่เนื่องจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีข้อกังวลอย่างมาก เราจึงจะดำเนินการเชิงรุกในการควบคุมและหาทางเลือกอื่น ๆ

กระบวนการกำหนดลักษณะความเสี่ยงและการปฏิบัติตามข้อกำหนดผลิตภัณฑ์ (PCRC) ที่ดำเนินการกับผลิตภัณฑ์ของเราร้อยละ 100 เป็นกลไกที่ใช้ในการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกระบวนการ PCRC รวบรวมการนำเข้าจากการเชื่อมต่อ กับลูกค้า เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ของวัตถุดิบปลายน้ำที่ต้องการ สิ่งที่ตามมาคือการประเมินวัตถุดิบแต่ละชนิดโดยมุ่งเน้นไปที่ส่วนประกอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบต่ออันตรายจากการผลิตและข้อปฏิบัติผลิตภัณฑ์ (ทั้งในแง่ของการลงทะเบียนสารเคมีและความปลอดภัยของอาหาร) ในตลาดเป้าหมาย

ผลงานสำคัญ

  • 100% of European entities were compliant with REACH regulations.
  • 100% compliance with the ECHA SVHC list.
  • Zero violations of domestic and international regulations.

กรณีศึกษา

Phasing out color control based on cobalt acetate in PET resin

Auriga Polymers Inc. began phasing out color control based on cobalt acetate chemistry since 2018. The current timeline, allowing for customer qualification, has the conversion to approved organic dyes occurring by May 2020. In 2020, cobalt acetate color control has been replaced with toners in our Auriga facility product portfolio, thus enabling us to provide our customers with a more cost-efficient product while ensuring the safety of end consumers.

เส้นใยสั้นหน่วงไฟชนิดปราศจากแอนติโมนี

เราผลิตเส้นใยที่มีความสามารถพิเศษคือ Trevira CS® ซึ่งเป็นเส้นใยหน่วงไฟชั้นนำของโลก โดย Trevira ได้ทำการขยายผลของเทคโนโลยีดังกล่าวไปสู่เส้นใยเหล่านี้

ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไอวีแอล: iCareTM ที่ปราศจากโลหะหนัก

iCareTM เป็นสัญลักษณ์ของค่านิยมหลักลำดับที่ 5 ของไอวีแอล นั่นคือ “เราดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ” ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ความยั่งยืน นวัตกรรม ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จของลูกค้าของเรา ปัจจุบันไอวีแอลมีความสามารถในการจัดหาเส้นใย iCareTM เส้นด้ายจากเส้นใยยาว และเม็ดพลาสติก PET สำหรับเครื่องแต่งกาย การดูแลบ้าน สุขอนามัย ยานยนต์ และการใช้งานเชิงอุตสาหกรรม เส้นด้ายจากเส้นใยสั้น ของ iCareTM นั้น รวมไปถึงเส้นใย PET 100% ทั้งเบอร์ละเอียดและหยาบ เส้นใยสังเคราะห์แบบกลวง และเส้นใยสององค์ประกอบ สำหรับผลิตภัณฑ์ปลายน้ำต่างๆ เช่น เครื่องแต่งกาย สุขอนามัยที่ใช้แล้วทิ้ง หมอนและผ้าปูที่นอน ของเล่น และผ้าที่ไม่ผ่านการถักทอในส่วนของยานยนต์และอุตสาหกรรม เส้นด้ายจากเส้นใยยาว PET ของ iCareTM นั้น รวมไปถึงเส้นด้ายยาวกึ่งสำเร็จรูป เส้นด้ายยืดหยุ่นแบบดึง เส้นด้ายยาวสำเร็จรูป เส้นด้ายสี และเส้นด้ายที่มีการหดตัวต่างกัน นอกจากนั้น ไอวีแอลยังเสนอชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ปราศจากโลหะหนัก (เรซิน) ของ iCareTM สำหรับเส้นด้ายจากเส้นใยยาว สปันบอนด์/สปันเมลต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ

Our Product Sustainability Assessment (PSA) methodology is based on WBCSD principles by design while the LCA is based on ISO 14040 and 14044.

As part of our strategy to develop more sustainable products in line with the needs of our clients and society, we developed a methodology that follows best market practices and which is based on the guidelines of the the World Business Council for Sustainable Development's Portfolio Sustainability Assessment (PSA).

In 2021, we analyzed the sustainability performance of strategic products in our existing portfolio for the HPC, CROP, Coating, and Oil & Gas segments, to learn about their respective strengths and implement action plans that improve those classified as underperforming. The methodology and internal evaluation process were audited and validated by a third party. The methodology was also adapted for products in development in 2021. The purpose of this action is to ensure that Oxiteno’s current product portfolio is always updated with developments duly classified under sustainability, while also making it possible to monitor the project portfolio and respective solutions being developed in this regard. This initiative will give us clear visibility in how well new developments adhere to Oxiteno’s sustainability strategies and expand management's capacity over the company’s solutions portfolio.

The PSA assessment is made through a qualitative and quantitative questionnaire composed of 26 environmental, social, and economic criteria, which analyze the product being applied at different stages of its life – from intrinsic characteristics, the manufacturing process, and use of the product by our client or even by an end user. Depending on the level of performance, the product must have an action plan for the adoption of control measures or, in terms of a positive evaluation, to leverage its sales.

Also, as part of the strategy for more sustainable products, Oxiteno measures the environmental impacts of its products and processes through Life Cycle Assessments (LCAs), a methodology governed by the ISO 14040 and 14044 standards, which quantifies environmental impacts – from the extraction of raw materials to the manufacturing and distribution stages, to use and final disposal. The results of the analysis can help the company make decisions regarding the choice of technological routes and raw materials with less impacts.

The 2030 sustainability strategic plan dedicated to the IOD business segment has a public target in which 15% of business revenues come from more sustainable products with 50% of new developments using the PSA and LCA methodology as a basis beginning in 2025.

การประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment, LCA) คือ การประเมินผลกระทบของผลิตภัณฑ์ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่ระยะเวลาจัดหาวัสดุจนถึงการย่อยสลายหรือช่วงรีไซเคิล ในแต่ละช่วงเวลาของการผลิต การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะพิจารณาถึงการใช้พลังงาน การใช้น้ำ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการปล่อยน้ำเสีย ที่ถูกใช้ในการผลิตสำหรับหนึ่งหน่วยงาน

หนทางตลอดการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์

ไอวีแอลควบคุมผลกระทบของผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์เพื่อนำมาซึ่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง

การประเมินแบบการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (LCA) เป็นการประเมินเชิงปริมาณผลกระทบของผลิตภัณฑ์ต่อสิ่งแวดล้อมในโครงการ ดูแลผลิตภัณฑ์ของบริษัท เพื่อสื่อข่าวสารให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ซึ่งถือเป็นพอลิเมอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่อันตรายตลอดกระบวนการผลิตและการใช้งาน พลาสติก PET ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในการผลิตบรรจุภัณฑ์ อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเข้ามาแทนที่การใช้วัสดุแก้ว PVC และ Polystyrene นอกจากนั้น PET ยังเป็นพอลิเมอร์หลัก ที่ใช้ในการผลิตเส้นไยสังเคราะห์ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค PET นับเป็นพอลิเมอร์เดียวที่สามารถนำมารีไซเคิล เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารและสิ่งทอ

จุดสำคัญของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการประเมิน LCA

ไอวีแอลดำเนินการประเมิน LCA กับผลิตภัณฑ์ PET ได้แก่ พลาสติกขึ้นรูป เส้นใยถัก เส้นใยสังเคราะห์ ขนสัตว์ เกล็ดพลาสติกรีไซเคิล PET PIA และ PTA เราเข้าใจถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดในระหว่างการผลิต จึงอาศัยความร่วมมือกับหุ้นส่วนอุตสาหกรรมในการประเมินวัฏจักรชีวิตการใช้และรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ PET

ไอวีแอลศึกษาคาร์บอนฟุตพริ้นของพลาสติก PET ร่วมกันกับมหาวิทยาลัยยูเทรคต์ประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมทั้งประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต เราได้วิเคราะห์สำรวจโรงงานของเราในประเทศเนเธอร์แลนด์ ลิทัวเนียและโปแลนด์ จากการศึกษาสรุปได้ว่าโรงงานผลิต PET ของไอวีแอลนั้นมีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ดีกว่าค่าเฉลี่ยในยุโรป

ในปี 2558 บริษัท AlphaPet หนึ่งในบริษัทย่อยของเราในสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการประเมินวัฏจักรชีวิต เช่นเดียวกัน รายงานชี้ให้เห็นว่าค่าศักยภาพที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน Global Warming Potential (GWP) จากการผลิต PET ที่โรงงานAlphaPet นั้นเทียบเท่ากับข้อมูลที่ได้รับการตีพิมพ์

ในปี 2560 ภาคการผลิตเส้นใยดำเนินการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า 90% ของผลิตภัณฑ์ (โดยปริมาณ) ที่ผลิตในเอเชีย ในระหว่างปี 2562 การประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกตรวจสอบอีกครั้งโดยเปรียบเทียบผลจากทุกโรงงานและจัดระบบการเรียนรู้ โดยเฉพาะที่บริษัท Wellman International (ผลิตภัณฑ์rPET) และบริษัท Trevira ได้ประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์สำเร็จลุล่วง การดำเนินการเหล่านี้ในทุกกรณีเป็นไปเพื่อให้สอดคล้องมาตรฐาน ISO และครอบคลุมการวิเคราะห์ตั้งแต่ต้นทางจนถึงประตูโรงงาน

เราได้ดำเนินการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (LCAs) ในโรงงานทั้งหมดของทวีปเอเชีย (ไม่รวมการเข้าซื้อกิจการใหม่ตั้งแต่ปี 2560-2562) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 14040/44: 2549 โดยมีแผนที่จะขยายการประเมินนี้ไปยังส่วนการดำเนินงานอื่นๆของเรา

โรงงานของเราในเอเชียและบางแห่งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปดำเนินการตามแนวคิดการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (LCA) ได้ลุล่วงถึง 65% แนวคิดนี้จะช่วยให้ไอวีแอล เข้าใจถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ถูกคัดเลือกไว้ในโครงการดูแลผลิตภัณฑ์ต่อไป ซึ่งเป็นโครงการที่เราสื่อข่าวสารให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

การจัดการวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Management, LCM)

การจัดการวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์เป็นการจัดการข้อมูลเชิงรุกอย่างเป็นระบบที่ได้จากการประเมิน LCA ซึ่งช่วยปรับปรุงการตัดสินใจ ผลจากการจัดการนี้ ไอวีแอลสามารถระบุการลดต้นทุน ปรับปรุงกระบวนการ ลดความเสี่ยง และตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้น เราตั้งใจที่จะเริ่มการจัดการวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ในการดำเนินงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับไอวีแอล ภายในปี 2563

ไอวีแอลได้ดำเนินการอย่างมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้นสอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับท้องถิ่นทั้งหมด การดำเนินการของไอวีแอลเริ่มต้นที่ฐานของผลิตภัณฑ์ที่มีพิษทางเคมีต่ำ เพื่อส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ไอวีแอลมีระบบการเปรียบเทียบแต่ละสถานที่ผลิตทั้งหมดและมุ่งมั่นที่จะลดความเป็นพิษที่อาจเกิดขึ้นในผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

ไอวีแอลเป็นผู้นำในองค์กรอุตสาหกรรมหลายแห่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อระบุข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับการใช้โมโนเมอร์สารเติมแต่งในขั้นสุดท้ายของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อน เช่น บรรจุภัณฑ์ของอาหารและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยา ไอวีแอลตรวจสอบข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศทั้งหมดและดำเนินการตามความเหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์แต่ละรายการยังคงเป็นไปตามขีดจำกัดความเป็นพิษที่กำหนดไว้ทั้งหมด

ไอวีแอลกำลังระบุข้อจำกัดที่อาจจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับการใช้โมโนเมอร์ในกระบวนการผลิตในขั้นสุดท้ายของผลิตภัณฑ์ ได้มีระบบในการทำงานร่วมกับองค์กรอุตสาหกรรมเพื่อจัดการกับข้อกังวลเหล่านี้ในระยะแรกและหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดข้อจำกัดทางกฎหมาย

สารเคมีและการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยตาม REACH ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อบังคับของประชาคมยุโรปที่สำคัญที่สุด วัตถุประสงค์ของ REACH คือการปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมโดยการระบุคุณสมบัติที่แท้จริงของสารเคมีและการประเมินความปลอดภัย โดยระบุวิธีจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมสำหรับการใช้สารเหล่านั้น ไอวีแอลได้ดำเนินงานตามข้อกำหนดของ REACH ในสถานที่ดำเนินงานทั้งหมดตั้งแต่ปี 2553 แม้ว่าปี 2556 จะเป็นกำหนดเวลาของ REACH ซึ่งองค์กร REACH สามารถจัดทำแถลงการณ์ REACH ของเราได้

ความมุ่งมั่นของเรา

การลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป้าหมายของระบบการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมให้เป็น 100% ในทุกการดำเนินงานทั้งหมดของเราในปี 2563 และบรรลุการปฏิบัติตามกฎระเบียบ REACH ของสหภาพยุโรป 100% ภายในปี 2561

เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือองค์การจัดการสารเคมีแห่งสหภาพยุโรป เตรียมเอกสารเพื่อระบุสารที่มีอันตรายสูง ส่งผลให้เกิดรายการของสารที่อาจถูกจำกัด หรือต้องห้ามในอนาคต ไอวีแอลยืนยันที่จะไม่เพิ่มสารที่มีอันตรายสูงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเหล่านี้ในปริมาณความเข้มข้นมากกว่า 0.1% ของน้ำหนัก

ผลงานสำคัญ

  • 100% of European entities were compliant with REACH regulations in 2020.
  • 100% ของความสอดคล้องกับ ECHA SVHC list และดำเนินการเชิงรุกในการนำผลิตภัณฑ์ออกจาก SIN list ไอวีแอลไม่ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผลิตสารเคมีที่ปรากฎใน SIN list

เส้นด้ายจากเส้นใยยาว PLA ได้รับการรับรองจาก ISEGA

เส้นใย PLA ของบริษัท Trevira ช่วยตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเลือกนั้นยังได้รับการรับรอง ISEGA ด้วยความร่วมมือกันระหว่างลูกค้าของเรา บริษัท Trevira ใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนทั้งเส้นใยสั้น PLA และเส้นด้ายจากเส้นใยยาว PLA ในการผลิตสินค้า เช่น ถุงมือนวด ถักโดย บริษัท MDD di Maddaleno Massimiliano ประเทศอิตาลี ผ้าบุภายในเพื่อป้องกันแสงแดดโดย บริษัท Vertisol ประเทศสเปน และผ้าทอ PLA 100% โดย บริษัท Chamatex ประเทศฝรั่งเศส

เส้นใยและเส้นด้ายจากเส้นใยยาวที่หน่วงไฟของ Trevira ได้รับการรับรองมาตรฐาน 100 โดย OEKO-TEX®; และได้รับการจัดอันดับสูงสุดซึ่งหมายความว่า เส้นใยเหล่านี้เหมาะสำหรับการใช้งานในทารกและเด็กเล็ก

มาตรฐาน 100 โดย OEKO-TEX® เป็นหนึ่งในการรับรองที่รู้จักกันดีที่สุดในโลกสำหรับสิ่งทอที่ถูกทดสอบสารอันตราย ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและแสดงถึงความปลอดภัยระดับสูงของผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เส้นใยของเราที่ Indorama Polychem Indonesia ยังได้รับการรับรอง Oeko-Tex STeP

STeP โดย OEKO-TEX®; ย่อมาจาก Sustainable Textile & Leather Production เป็นระบบการรับรองแบบแยกส่วนสำหรับโรงงานผลิตในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องหนัง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน

ดูความหมายของมาตรฐาน 100 และเหตุใดจึงควรตรวจสอบฉลากนี้เมื่อซื้อสิ่งทอที่ https://www.oeko-tex.com/en/

แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของไอวีแอลจะไม่มีความเป็นพิษและสอดคล้องกับกฏหมายและข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแต่บริษัทก็ยังมีแนวทางและวิธีการในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากความเป็นพิษของวัตถุดิบและสารเคมีอื่นๆ ในกระบวนการผลิต บริษัทมีการตรวจสอบวัตถุดิบอย่างเข้มงวด และประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นที่รู้จักและได้รับการจดทะเบียนแล้ว หรือใช้สารเคมีทางเลือกอื่นๆ ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น เรามีการประเมินความเสี่ยงของสารเคมีที่นำมาใช้ในการดำเนินงาน และความเสี่ยงต่อพนักงานและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการควบคุมสารเคมีที่ระเหยได้ ตามรายชื่อสารเคมีอันตรายที่ปรากฏใน SVHC list และSIN list ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้

บริษัทดำเนินมาตรการเชิงรุกโดยมีส่วนร่วมในการประเมิน และรับรองว่ามีการปฏิบัติตามระเบียบสารเคมีของ สหภาพยุโรป (Regulation on Registration, Evaluation, Authorization and Restriction of Chemicals - REACH) และข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการ ใช้สารเคมีในระดับสากล ทางบริษัทได้มีการดำเนินงาน ให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีการใช้สารเคมีที่สอดคล้องกับบัญชี รายชื่อสารเคมี ECHA SVHC และเพื่อให้เกิดความปลอดภัย มากขึ้นและ เราได้เริ่มมีการยกเลิกผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้สาร เคมีที่อยู่ใน SIN list ออก

เป้าประสงค์ของเราคือการประเมินวัตถุดิบ สารเคมี และ ผลิตภัณฑ์ของเราให้ครอบคลุมทั้งหมดระหว่างปี 2563 โดยใช้รายชื่อใน SIN list เป็นเกณฑ์และกำหนดเป้าหมาย สำหรับการปรับปรุงเพิ่มเติมภายในปี 2564 เราตรวจสอบ ข้อมูลใหม่ใน SVHC list และประเมินการใช้วัตถุดิบของเรา ในบางกรณี อาจมีสารเคมีที่อยู่ใน SVHC list ขณะที่เป็น รูปแบบวัตถุดิบ แต่เมื่อนำมาแปลงสภาพเป็นรูปแบบอื่น ที่ไม่อันตราย สารนั้นก็ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้าน ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

“ไอวีแอลตั้งเป้าหมายว่าจะต้องไม่มีการละเมิดระเบียบข้อบังคับทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงไม่มีการใช้สารอันตรายที่มีความกังวลสูง (SVHC)” เราได้ประเมินสารเคมีที่ใช้ในการดำเนินงานและความเสี่ยงต่อพนักงานของเราและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการควบคุมสารเคมีที่ระเหยได้ตามรายชื่อสารเคมีอันตรายที่ปรากฏใน SVHC list และ SIN list ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้